ในหนึ่งวัน งานของ UX Designer ทำอะไรกันบ้าง?
Bell
10 Jul 2020
สวัสดีค่า เบลนะคะ ตอนนี้เป็น UX Designer ที่บริษัท Pruxus อ่านว่า พรัก-ซุส หรือจะอ่านง่าย ๆ พวกเราเรียกกันเองว่า ผักสดค่ะ :D
บริษัท Pruxus เป็นบริษัท User Experience Consulting Agency ค่ะ งานหลัก ๆ ของเราคือ เราช่วยลูกค้าที่สร้าง Digital Product ที่มีปัญหาทางด้าน UX (เช่น ระบบใช้งานยาก, ไม่มีคนใช้ หรือ ระบบไม่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า) สามารถความเข้าใจ users ได้ดีขึ้น เพื่อหาปัญหาและใช้ Design process เพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนงานอื่น ๆ บริษัท Pruxus ก็มีจัด Training สำหรับองค์ต่าง ๆ ด้วยค่ะ
Process หลักของบริษัท คือ Understand, Create and Test ค่ะ ให้เล่าคร่าว ๆ ก็คือ
- Understand — เราจะทำความเข้าใจในตัว users ก่อน ขั้นตอนนี้เป็นช่วงการ Research
- Create — หลังจากเข้าใจปัญหาและต้องการของ user แล้ว เราจะเริ่มสร้าของ ไล่ตามลำดับคร่าว ๆ คือ concept > information > interaction > visual
- Test — ขั้นตอนนี้จะเป็นการวัดผลว่า user สามารถใช้งานได้จริง หรือไม่ ซึ่งก็มีหลายวิธีมาก ๆ ค่ะ
เนี่ยแหละค่ะ บริษัท Pruxus ที่เราทำงานอยู่ ซึ่งจริง ๆ แล้ว แต่ละวันจะทำงานไม่เหมือนกันเลย ขึ้นอยู่กับว่า ตอนนี้เจอกับโปรเจคอะไร แล้วอยู่ในขั้นตอนไหน เรื่องลูกค้าของบริษัทพรักซุสก็มีความหลากหลาย industry มาก ๆ มีตั้งแต่ คลีนิกศัลยกรรม เว็บไซต์ร้านเพชร โรงงานเหล็ก แอปวางแผนการเงินสำหรับบุคคลทั่วไป แอปสำหรับนักวางแผนการเงินเพื่อใช้วางแผน จนไปถึงเว็ปไซต์ของรัฐบาล เป็นต้น
ถ้าจะให้เล่าคร่าว ๆ ว่าทำอะไรบ้างใน 1 วัน ตื่นขึ้นมา ก็ขึ้นอยู่กับว่า วันนี้เรามีนัดลูกค้าไหม นัดที่ไหน หรือมีนัดคุยงานกันเองในทีม โดยปกติแล้ว บริษัทเราจะคุยงานกันช่วงบ่าย ถ้าวันไหนไม่ได้มีนัดคุย (ซึ่งน้อยมาก) ก็จะนั่งทำงานที่บ้าน (แต่โดยปกติแล้วก็นัดเจอกันแทบทุกวันอยู่แล้วแหละเพราะต้องซิงค์งานกัน) ถ้าจะให้เล่าคร่าว ๆ ว่าวันนึงทำงานอะไรบ้าง ข้างล่างจะเป็นตารางทำงานของวันที่ไม่ได้นัดลูกค้านะคะ
ช่วงเช้า เป็นช่วงวางแผนและทำงาน
- หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก่อนอื่นเลยเราจะเช็คเมล เช็คไลน์ เพื่อที่จะดูว่ามีงานใหม่เข้ามา หรือเป็น Feedback จากงานวันก่อนที่ส่งไปรึเปล่า
- จากนั้นก็จะมาวางแผนว่า วันนี้มีอะไรที่ต้องทำ จะลิสต์ทั้งหมดออกมาก่อน
- แล้วเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังของแต่ละงาน ว่างานไหนต้องการ input จากใคร เช่น ต้องการ feedback จากทีม, ต้องการคำแนะนำของหัวหน้า หรือ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากทางฝั่งลูกค้า เพื่อที่จะได้เตรียมคุยได้ถูก เนื่องจากทุกคนอาจมีเวลาว่างไม่ตรงกัน
- จากนั้น จะเป็นการทำงานของช่วงเช้า ซึ่งในฐานะ UX Designer ลักษณะเนื้องาน เราก็ต้องทำทั้งด้าน Research และ Design ด้วยค่ะ เพราะ การทำ Research จะทำให้เราเข้าใจการ Design มากขึ้นด้วย ว่าทำไมถึงต้องออกแบบแบบนี้
ช่วงบ่าย เป็นช่วงการ feedback งาน คุยกับทีมและลูกค้า
- หลังจากเดินทางมาถึงสถานที่นัด
- Present งานหรือนัดประชุมกับทีม หรือ ลูกค้า
- คุยกับทีมเพื่อหาข้อสรุปว่า next step มีใครต้องทำอะไรต่อ
- สรุปนัดของวันถัดไป
- อาจจะนั่งทำงานด้วยกันต่อ หรือ จะแยกย้ายกันไปทำงาน ก็แล้วแต่วันค่ะ
เนี่ยแหละค่ะ ตัวอย่าง 1 วันของเรา ถ้าถามว่า ความท้าทายของงานนี้คืออะไร จริง ๆ อยากจะพูดถึง 3 เรื่อง
1. สลับสมองให้ทัน
มันคือการสลับสมองให้ได้ว่า ตอนนี้ทำ project อะไร และอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว บางวันเคยมีประชุม 3 โปรเจคมากสุด ก็ต้องพยายาม สลับให้ทัน เช่น บางครั้งตอนเช้าเราต้องสวมหมวกเป็น reviewer ต้องรีวิวงานให้ designer ซึ่งเราต้องพยามหาสิ่งที่อยากให้ designer ปรับเพิ่ม ติเพื่อก่อ หาข้อด้อยที่จะช่วยกันเสริมให้งานมันดีขึ้นไปอีก บางทีช่วงบ่ายสวมบทบาทเป็นคนออกแบบ wireframe อันนี้ ซึ่งต้องใช้ creative skill สูง ต้องเปิดรับ เปิดโอกาสให้ทุกข้อเสนอ ซึ่งบางทีก็อาจมีลืมไปบ้าง แต่ต้องพยายามฝึกบ่อย ๆ ในการมองภาพรวม หรือ มองแค่จุดเล็ก ๆ
2. บริหารเวลาภายในทีมและนอกทีม
สำหรับเรา เรื่องการบริหารเวลา เราว่าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลยนะคะ ไม่ว่าจะทำงานกับบริษัทเล็ก ๆ หรือ องค์กรใหญ่ ๆ เพราะว่าถ้าเป็นคนที่จัดการเวลาตัวเองได้ดีแล้ว มันอาจจะยังไม่พอ skill ที่ทุกวันนี้เราคิดว่าควรฝึกฝนมากขึ้น คือ การจัดการเวลาให้เหมาะกับ timeline ที่จำกัด ที่เราต้องคิดไปถึงการเผื่อเวลา เนื่องจากเราไม่ได้ทำงานตัวคนเดียว ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงาน และแต่ละคนมีเวลาที่ว่างแตกต่างกัน ยิ่งซิงค์กับเพื่อนร่วมงานมากเท่าไร ก็จะสามารถลดข้อผิดพลาดในการทำงาน และประหยัดเวลามากขึ้น เพราะฉะนั้น ก็ต้องวางแผนว่า ต้องนัดเจอใคร เมื่อไร เพื่อให้คุยงานให้มีประสิทธิภาพมาที่สุด ภายใต้ timeline ที่กำหนดไว้
3. ซิงค์กับลูกค้า
อีกหนึ่ง skills ที่สำคัญคือ การสื่อสาร นอกจากเรื่องการซิงค์งานกับทีมแล้ว สำหรับในมุมลูกค้าก็สำคัญมากเช่นกันค่ะ เนื่องจากในบางครั้ง ลูกค้าไม่ได้มานั่งเห็น process การทำงานของเรา เขาเห็นแค่ปลายทาง เราจึงจำเป็นต้องสื่อสารว่า ที่มาที่ไปของสิ่ง ๆ นี้คืออะไร อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจออกมาแบบนี้ ถ้าเราอธิบายได้ละเอียด จะทำให้ลูกค้าเห็นภาพ เข้าใจ และมั่นใจมากขึ้น หลาย ๆ ครั้ง ถ้าขาดการสื่อสาร มักจะเกิดความเข้าใจผิดอยู่เสมอ
โดยสรุป คือ ux designer ทำงานไม่ซ้ำกันเลย ในแต่ละวัน แต่จริง ๆ เราว่ามันจะมีความ เป็น pattern ของมันอยู่ ด้วยตัว process ที่บริษัทเราทำ understand, create and test เป็น process ที่ชัดเจน ส่วนในเนื้องาน แต่ละงานเราจะใช้ method ไหนมา apply นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ มันจะยิ่งทำให้เราแม่นขึ้น และมองอะไรได้ขาดมากขึ้นนะคะ
อีกอย่างที่อยากจะฝากทุกคนที่สนใจในงานสายนี้ อยากจะบอกว่าเป็นงานที่ได้เพิ่มเติมความรู้ทุกวันนะคะ นอกจากจะได้เจอ industry ที่หลากหลาย และได้ความรู้จาก industry นั้น ๆ แล้ว ตัวเราเองก็ควรจะเพิ่มเติม skill ด้วยกันเหมือนกัน เช่น อ่านหนังสือ, ฟัง podcast, เข้า conference หรือ งาน meetup ต่าง ๆ มันจะยิ่งมีประโยชน์ต่อเรามากเลยนะคะ
ล่าสุดที่ทางบริษัทผักสดได้ส่งไปงาน ux hong kong เมื่อต้นปี 2019 ทำให้เราได้เปิดมุมมองที่กว้างมากขึ้น ไปเห็นว่าในโลกนี้ ประเทศอื่น ๆ เขาทำ ux กันยังไง พอได้ไปพูดคุย ได้รู้จัก กับ ux designer คนอื่น ๆ มันทำให้เรารู้ตัวเลยว่า มันยิ่งทำให้เราอยากเพิ่มเติมความรู้ทางด้านนี้อีกมากเลยค่ะ
นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาอีกอย่างก็คือไฟในการทำงานที่มากขึ้นด้วยค่ะ การไป UX Conference ทำให้เพิ่มความรู้เพื่อนำไปพัฒนา Product ให้ลูกค้าต่อได้เยอะเลยค่ะ อยากให้ทุกคนลองไป Conference ต่าง ๆ กันเยอะ ๆ นะคะ สวัสดีค่า.. :)