ทำไมการออกแบบปุ่มในรถถึงไม่ควรใช้หน้าจอ Touch screen ล้วน ?

Pij Pruxus
19 Jun 2024

386

ไม่กี่วันมานี้ พึ่งมีข่าวที่ มาตรฐานการทดสอบรถยนต์แห่งภูมิภาคยุโรป (Euro NCAP) ได้ออกกฎเพิ่มเติมสำหรับการให้คะแนนความปลอดภัยของรถยนต์ โดยรถรุ่นที่จะได้คะแนนเต็มจะต้องใช้ ปุ่มควบคุมแบบกดเท่านั้น และไม่ใช่ปุ่มกดแบบ Touch screen ล้วนครับ

ซึ่งเชื่อว่าคงทำให้รถยนต์รุ่นที่มีจุดขายเรื่องความปลอดภัยแต่ก็ยังเอาปุ่มควบคุมต่าง ๆ ไปใส่ในหน้าจอ Touch screen กัน สะดุ้งกันไม่มากก็น้อยนะครับ

 

โพสต์นี้ก็เลยอยากจะมาชวนคุยเกี่ยวกับแง่ Interaction design ว่าปุ่มกดแบบ physical button หรือปุ่มกดแบบดั้งเดิม ที่ดูเช้ยเชยเนี่ย ทำไมมันถึงส่งผลให้เกิดความปลอดภัยมากกว่าปุ่มบนหน้าจอ Touch screen จน Euro NCAP ต้องนำไปใส่เป็นเกณฑ์เพิ่มเติมครับ

 

 

หลักการ Interaction design ของการใช้งานปุ่มต่าง ๆ

 

เวลาที่เราออกแบบ interaction หรือ การควบคุมใช้งานระบบต่าง ๆ นั้น โดยพื้นฐานแล้ว ระบบจะต้องมีการสื่อสารไปมากับทาง users ตลอด หรือมี users มีการ “ส่ง output” ไปบอกระบบว่าต้องการทำอะไร และ “รับ input” ที่ระบบแจ้งกลับมาว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ตลอดทุกขั้นตอนการใช้งานครับ

 

ซึ่งถ้าเราพูดถึงแค่ “การกดปุ่ม” อะไรซักอย่าง ก็จะมีขั้นตอนย่อย ๆ ดังนี้ครับ

 

  1. User สแกนหาปุ่มที่ต้องการกด
  2. เล็งนิ้วให้ตรงปุ่มนั้น ๆ
  3. ออกแรงกดปุ่มลงไป
  4. ปล่อยนิ้ว
  5. ดูว่าระบบตอบสนองถูกต้องตามที่ต้องการไหม

 

ในแต่ละขั้น users จะมีการรับ input ที่มาจากระบบอยู่เสมอว่าทำถูกต้องไหม แค่ไหน เช่น ขั้นการสแกนหาปุ่มด้วยลูกตา ก็จะมองหาปุ่มที่คิดว่าตรงกับที่ตัวเองต้องการ เช่น ปุ่มปรับลดแอร์ในรถลงคือปุ่มไหน หรือแม้แต่ขั้นการเล็งนิ้ว ก็ต้องคอยเล็งและปรับนิ้วให้ตรงปุ่มจริง ๆ ก่อน แล้วค่อยกดลงไป นะครับ ซึ่งสิ่งที่ users รับรู้จากระบบนี้ เราเรียกอีกอย่างว่า “Feedback” จากระบบ ก็ได้ครับ (ซึ่งแค่ปุ่มมันอยู่เฉย ๆ users ก็จะมีการมองเพื่อรับรู้ตำแหน่ง ๆ ของปุ่มนั้น ๆ อยู่เรื่อย ๆ หรือเรียกว่า ได้รับ feedback จากระบบ ก็ได้ครับ)

 

ทีนี้สิ่งนึงที่จะสังเกตเห็นก็คือ การรับ input ของ users จะอยู่ในรูปแบบของ “การมองเห็น” หรือ “vision” เป็นหลักเลย

ซึ่งถ้าเราพูดถึงปุ่มบน iPad ที่เรากดตอนนั่งอยู่บ้าน มันก็พอโอเคใช่ไหมครับที่เรานั่งมองหาปุ่มต่าง ๆ แต่ถ้าพูดถึงตอนที่เรา กำลังขับรถอยู่ แล้วต้องการจะกดปุ่มลดแอร์ มันก็จะเกิดความอันตรายมากขึ้นได้ เพราะ users ต้องละสายตาจากถนนมามองสแกนหาปุ่มที่จะกดครับ

 

???? สัมผัสนั้น สำคัญไฉน?

 

แต่… ไม่ใช่ว่า การมองเห็น จะเป็นวิธีเดียวที่ users จะรับรู้ feedback ของระบบได้ครับ มีอีกวิธีนึงที่เราก็น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่ ก็คือการใช้การคลำหาปุ่มที่ต้องการ หรือการใช้ ????“การสัมผัส” นั่นเองครับ

 

มนุษย์เรามีการใช้การสัมผัสเพื่อหาของในชีวิตอยู่เยอะมาก แต่เรามักจะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ เช่น การควักหา เหรียญสิบในกระเป๋ากางเกง ที่เราจะจับรูปทรงเหรียญแล้วก็พอเดาได้ว่านี่คือเหรียญสิบแน่ ๆ ก่อนจะควักออกมา

หรือการล้วงหากุญแจในเป้ ที่เราไม่ต้องหยิบออกมาดูแต่ใช้แค่การสัมผัสรูปทรงก็รู้ได้ว่านี่คือกุญแจ อะไรแบบนี้นะครับ

 

หรืออย่าง การขับรถ คนขับรถก็มักจะใช้มือคลำ ๆ เพื่อสัมผัสปุ่มต่าง ๆ เพื่อหาปุ่มที่ต้องการก่อนกด ทำให้ไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนนก็กดถูกปุ่มได้นะครับ

ซึ่งมันทำให้การขับรถปลอดภัยกว่าการต้องหันไปมองปุ่มก่อน ซึ่งมันก็เลยทำให้การออกแบบปุ่มต่าง ๆ (ไม่ใช่แค่ปุ่มในรถ แต่โปรดักส์ physical อื่น ๆ ก็เช่นกัน) จำเป็นต้องดีไซน์ถึงรูปทรงและผิวสัมผัสของปุ่มที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยให้ users แค่สัมผัสก็แยกความแตกต่างปุ่มได้ออก และเมื่อใช้งานไปซักพักแล้ว ก็สามารถจำได้ด้วยว่า สัมผัสแบบนี้ คือปุ่มอะไรครับ

 

การสื่อสารให้ users เข้าใจได้ โดยการสัมผัส นี่เราเรียกว่า “Haptic feedback” ครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ดีไซเนอร์ที่ออกแบบระบบที่ users ต้องมีการใช้งานแบบไม่สามารถหันมามองได้ตลอด ควรต้องคำนึงถึงมาก ๆ ครับ

 

ซึ่ง นี่ก็คือจุดอ่อนหลักของการใช้งานทุกอย่างบน ????หน้าจอ Touch screen เลยครับ

เพราะผิวสัมผัสทุกอย่างจะหายไปหมด ซึ่งแปลว่า users จะไม่สามารถใช้แค่การสัมผัสเพื่อหาปุ่มได้อีกแล้ว และจำเป็นต้องพึ่งพาการมองเห็นเยอะมาก ซึ่งในกรณีของการออกแบบปุ่มในรถ ปุ่มที่อยู่บน Touch screen จะมีความอันตรายสูงขึ้นเป็นพิเศษในการใช้งานครับ

 

ยิ่งถ้าเป็นปุ่มที่ users ต้องมีการกดอยู่เรื่อย ๆ ขณะที่ขับรถอยู่ เช่น ปุ่มปรับแอร์ต่าง ๆ การเอาปุ่มเหล่านี้ไปใส่บนจอ Touch screen ก็ยิ่งทำให้การขับขี่อันตรายขึ้นได้มากครับ

การคำนึงถึง Haptic feedback จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการออกแบบปุ่มในรถครับ

 

สุดท้ายแล้ว การมี Touch screen ก็ไม่ได้แย่เสมอไปครับ เพราะมันสามารถทำให้ควบคุมและดูข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ได้หลากหลายกว่า แต่ยังไงสำหรับปุ่มสำคัญ ๆ ที่ users มีโอกาสกดบ่อยตอนขับรถ ก็ควรจะเป็นปุ่มกดแบบดั้งเดิมเสมอครับ เพื่อลดอันตรายในการใช้งานครับ

 

ส่วนตัวทางพรักซุสเราก็แอบเชียร์การมีปุ่มกดแบบดั้งเดิมมาอยู่เรื่อย ๆ ครับ เพราะมันใช้ง่ายกว่า และปลอดภัยกว่าถึงบางทีจะดูเชย แต่ usability และ safety ก็ควรต้องมาก่อนความเท่และความสวยงามนะครับ ????????

 


pruxus

About us

We are a Bangkok, Thailand-based UX consulting agency that is passionate in helping our clients overcome their user experience challenges through our systematic user-centered design process.
We firmly believe that focusing on people first is the key to success for any business in the digital era.

Let’s talk

Whether you are looking for some help with UX challenges, want to get in touch with us, or just interested to learn more and request our portfolio, feel free to say hello to us!

Email us

hello@pruxus.com

Message us

 

Follow us