5 ข้อผิดพลาดของมือใหม่ทำ Usability Testing ที่อาจทำให้ผลออกมา ไปคนละทาง

Pij Pruxus
13 Feb 2025

138

 

 

สิ่งนึงที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากของวงการ UX บ้านเราในช่วงนี้ ก็คือหลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับการทำ “Usability Testing” (หรือขอเรียกย่อ ๆ ว่า “UT” นะครับ) กันมากขึ้นนะครับ ซึ่งเป็นเรื่องดีมาก ๆ เลยเพราะ UT มันคือท่าไม้ตายสำคัญของศาสตร์ด้าน UX ที่ช่วยให้เรามองเห็นในมุมมองของ users จริง ๆ และเข้าใจปัญหาการใช้งานของโปรดักส์ได้ลึกซึ้งขึ้น ซึ่งก็จะช่วยให้เราพัฒนาโปรดักส์ได้ถูกจุดและสร้าง UX ที่ดีให้กับ users ขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ ????

แต่ จากประสบการณ์ของทีมพรักซุสเราที่ได้มีโอกาสไปเทรนทีม UX ให้กับหลากหลายองค์กร ปัญหานึงที่เราสังเกตเห็นคือ หลายองค์กรมองว่า “ทำ UT ก็ไม่ยากนะ เอาน้องในทีม UX ซักคนสองคนไปลุยเองได้เลย”

และมักจะมอบหมายให้น้อง ๆ ในทีมที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากให้ลงมือทำทันที ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือผลที่ได้จากการทำ UT มันออกมาไปคนละทาง หลายครั้งส่งผลให้ทีมดีไซน์ไปแก้ปัญหาที่ผิดจุด และทำให้ UX ของโปรดักส์แย่ลงกว่าเดิมครับ

 

บทความนี้เลยอยากมาแชร์ 5 ข้อผิดของพลาดที่มักเจอบ่อย ของมือใหม่ที่ทำ UT จากที่ทีมพรักซุสเราเคยเห็นมาครับ:

 

===============================

1. ถามแทรก users ตลอดเวลาที่ทดลองใช้งาน

 

หัวใจหลักสำคัญของการทำ Usability Testing คือการปล่อยให้ users ลองใช้งานด้วยตัวเอง และผู้สัมภาษณ์นั่ง observe ดู users ลองใช้งานแบบเงียบ ๆ แล้วค่อยมาถามคำถามหลังจาก users ลองใช้จนจบตามโจทย์แล้ว แต่การ observe โดยที่ users นั่งเงียบนั้น เราจะไม่รู้เลยว่า users คิดอะไรอยู่ในแต่ละจุด ซึ่งน้อง ๆ มือใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านการฝึกฝนมา จะไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้ users พูดออกมาให้ได้ ก็เลยมักจะคอยถามคำถามอยู่ข้าง ๆ users ตลอดเวลาที่ users ลองใช้งาน เช่น “ทำไมกดปุ่มนี้ไม่กดอีกปุ่มเหรอครับ?” “ทำไมไม่เห็น text ข้างบนละครับ” “จะกดปุ่มนี้ มั่นใจไหมครับว่าถูก?”

แต่การทำแบบนี้ ส่งผลให้การใช้งานของ users ผิดเพี้ยนจากธรรมชาติไปมากครับ เพราะ users จะเริ่มกังวลกับทุกอย่างที่ตนทำเนื่องจากมีคนคอยนั่งถามอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา จึงทำให้ users คิดเยอะกว่าปกติ และผลที่ได้ไม่เหมือน users ใช้งานกันปกติจริง ๆครับ

ซึ่งทีมที่มีประสบการณ์ทำ UT จะมีการใช้เทคนิคการเตรียมพร้อม users ให้สามารถพูดในสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาโดยธรรมชาติ (Think-aloud) ตั้งแต่เริ่มการทดสอบ เพื่อทำให้ users พูดออกมาได้เองโดยไม่ต้องคอยนั่งถามคำถามครับ

 

===============================

2. ถามคำถาม ที่ไม่ได้โฟกัสไปยังปัญหาการใช้งานจริง

 

เมื่อ users ทำโจทย์การใช้งานแต่ละข้อจบ เราจะมาถามคำถาม Follow-up จากสิ่งที่เห็นตอน users ลองใช้งานครับ แต่การคิดคำถามที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับน้อง ๆ มือใหม่หลายคน

เช่น สมมุติ user เคยพูดออกมาว่า "ไปต่อยังไงวะเนี่ย เดาไม่ถูกเลย" มือใหม่หลายคนมักจะชอบถาม user ว่า "แล้วควรแก้ดีไซน์ตรงนี้ให้เป็นยังไงดีคะ?"ซึ่งเป็นการบังคับให้ user คิด solutions แก้ปัญหาให้เราทันที และเป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะการคิด solution ควรเป็นหน้าที่ของทีมดีไซน์และทีมโปรดักส์ที่ทำในขั้นต่อไป และ users ไม่สามารถคิด solutions ออกได้ทันทีเสมอ และหลายครั้งถึงจะมีไอเดีย แต่ก็มีโอกาสที่จะไม่เวิร์คกับระบบเราได้ทันทีครับ

ซึ่งคำถามที่เหมาะสมกว่า ควรจะถามเพื่อทำความเข้าใจถึงต้นตอของปัญหา

เช่น “ทำไมถึงเดาไม่ถูกครับ อะไรที่มันทำให้เดาไม่ถูกครับ?”

ซึ่งจะช่วยให้ขั้นตอนแก้ปัญหาของทีมงานที่จะตามมาทำได้ง่าย และช่วยให้เราแก้ปัญหาได้ถูกจุดครับ

อีกรูปแบบนึงของการถามคำถามที่ไม่ควร คือการสนใจถามแต่ “ความคิดเห็น” ของ users กับสิ่งที่ไม่ได้มีปัญหาการใช้งาน เช่น “คิดยังไงกับหน้าตาไอคอนนี้” “อยากให้แอปเป็นสีอะไรดี?” ฯลฯ

ซึ่งเป็นสิ่งที่ถามได้บ้าง แต่ไม่ควรเป็นคำถามหลักของการทำ “Usability Testing” หรือการทดสอบเพื่อเข้าใจ “ปัญหาการใช้งาน” ครับ

 

===============================

3. มองไม่เห็นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ

 

หลายครั้งจะพบว่า มือใหม่ที่ทำ UT มักจะไม่ได้สังเกตการใช้งานของ users ละเอียดเพียงพอ และอาจจะมองข้ามปัญหาการใช้งานที่ users ไม่ได้แสดงออกมาตรง ๆ เช่น บางที users นั่งจ้องหน้าจอนานและไม่ยอมไปต่อ คนที่มีประสบการณ์จะเริ่มสังเกตสีหน้าท่าทาง หรือฟังน้ำเสียงของ users และเริ่มจับได้ว่า users น่าจะเจอปัญหาการใช้งานบางอย่างในใจแล้ว และสรุปลงใน Report ตอนท้ายครับ แต่มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามไปเลย และพูดว่า "โอเคไม่มีปัญหาอะไรนะครับ งั้นไปต่อครับ" ทำให้ปัญหาที่มีอยู่ กลับสูญหายไประหว่างทาง ซึ่งทำให้บางปัญหาไม่ได้ถูกนำไปแก้ไขจริงครับ

 

===============================

4. สรุปผลแล้วปัญหาไม่ชัดเจน หรือดีเทลไม่ละเอียดพอ

 

การสรุปผลและเขียน Report อาจเป็นขั้นตอนที่ต้องการประสบการณ์มากที่สุดในกระบวนการทำ UT เพราะต้องอาศัยการฝึกฝนและเก็บประสบการณ์เป็นปี ๆ ถึงจะสามารถวิเคราะห์ได้ “คม” และชัดเจนจริงครับ และมันไม่ใช่แค่วิเคราะห์ปัญหาได้ก็จบ แต่อีกทักษะหนึ่งที่ต้องฝึกนานเช่นเดียวกัน ก็คือการเขียนสรุป และถ่ายทอดออกมาให้อ่านเข้าใจง่ายด้วยและลดการตีความผิดด้วยครับ

เช่น แทนที่จะเขียนแค่ว่า "ปุ่มใช้ยาก" ซึ่งเป็นการสรุปผลที่คนอ่านไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร และอาจนำไปสู่การตีความผิดๆ ของทีมออกแบบ ควรเขียนให้ชัดเจนและลงดีเทลให้แม่นยำ เช่น "ปุ่มเข้าใจยาก เนื่องจากชื่อปุ่มไม่สื่อว่ากดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น" จะทำให้เห็นแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจนขึ้นครับ

 

===============================

5. สรุปผลที่เกินจริง

 

ปัญหานี้มักเกิดต่อเนื่องจากตอนที่ UT ทีมงานไม่ได้เจาะทำความเข้าใจกับปัญหาของ users ลึกเพียงพอ ทำให้มีข้อมูลในมือที่ไม่ละเอียด หรือไม่ชัดเจน พอถึงตอนสรุป หลายครั้งทีมมือใหม่ก็เลยมักจะตีความเอาเอง แล้วสรุปผลเกินกว่าที่เป็นจริง

เช่น สรุปว่า "ปุ่มเข้าใจยาก เพราะสีไม่ชัดเจน" ทั้งที่จริงๆ สีอาจชัดเจนดีแล้ว แต่ที่ผู้ใช้ไม่กดอาจเป็นเพราะข้อความบนปุ่มไม่สื่อความหมาย การสรุปแบบนี้อาจทำให้ทีมไปแก้ปัญหาผิดจุดได้ครับ

และข้อนี้เป็นสิ่งที่มักจะทำให้ผบ.ที่นั่งฟังผล UT ในประชุมรู้สึก เอ๊ะ ได้บ่อยมากครับ เนื่องจากรายละเอียดของปัญหามันจะฟังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล และทำให้ความเชื่อมั่นของกระบวนการทำ UT ลดลงไปได้

 

============

สรุป

============

การทำ Usability Testing เป็นทักษะที่ต้องอาศัยทั้งความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมา เพราะมันมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องใช้ประสบการณ์ของทีมในการทำพอสมควรครับ

ซึ่ง ถ้าเราทำเพียงเพื่อให้เราแค่รู้สึกว่า "ทำ UT แล้วนะ" อาจจะทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่นอกจากไม่ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาการใช้งานใหม่ที่ยิ่งแย่กว่าเดิมก็เป็นได้ครับ และยังทำให้องค์กรสับสนด้วยว่าทำไมเราก็ทำ UT ไปแล้ว แก้ปัญหาตามผลของ UT ก็แล้ว แต่ทำไม UX กลับแย่ลง users กลับด่าเรามากขึ้นครับ ????

ถ้าองค์กรต้องการพัฒนาโปรดักส์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของ users จริง ๆ ควรลงทุนในการพัฒนาศักยภาพของทีมงานให้มีความเชี่ยวชาญในระดับนึงก่อน หรือหาทีมที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วยทำ UT ให้ อาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าครับ

 

----------------------------------

 

สนใจศึกษาเรื่องการทำ Usability Testing เพิ่มเติมได้ที่ ผักสดพอดแคสต์ครับ ????

https://www.youtube.com/@puxod

 

หรือถ้าต้องการความช่วยเหลือในเรื่องการทำ Usability Testing หรือ train ทีม UX ในองค์กร เพื่อเพิ่มทักษะการทำ Usability Testing สามารถติดต่อเราได้ทางช่องทางเหล่านี้ได้เลยครับ ????

 

Email: hello@pruxus.com

FB Messenger: https://m.me/PruxusDesign

LINE: https://lin.ee/tligr986


pruxus

About us

We are a Bangkok, Thailand-based UX consulting agency that is passionate in helping our clients overcome their user experience challenges through our systematic user-centered design process.
We firmly believe that focusing on people first is the key to success for any business in the digital era.

Let’s get in touch

Have a complex UX challenge that needs solving? Looking for a reliable UX research partner or seasoned UX design team? We're here to help uncover valuable insights and create intuitive experiences that truly work for your users. We're always ready to discuss your strategic UX needs or share our portfolio of impactful, research-driven solutions.

Email us

hello@pruxus.com

Chat with us on Facebook Messenger

 

Follow us